ผสมสมุนไพร-ขายสุขภาพ
ขนมกรุบกรอบทานเล่นจากโรงงานใหญ่ ๆ ที่มีวางขายตามท้องตลาดนั้น บ้างก็มีประโยชน์น้อย บ้างก็มีราคาสูง ซึ่งนี่ก็เป็นช่องว่างทางการตลาดสำหรับรายย่อย เป็น “ช่องทางทำกิน” จากการผลิตขนมกรุบกรอบที่มีประโยชน์-ราคาไม่แพง อย่างการทำ “ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร” ขาย ก็น่าสนใจ...
ชมพูนุช เผื่อนพิภพ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร เปิดเผยว่า จากการทำโครงการเกษตรอินทรีย์เป็นผลิตภัณฑ์ เมื่อลงพื้นที่ในต่างจังหวัดก็พบพวกธัญพืชต่าง ๆ เป็นที่นิยมมาก แล้วก็เห็น “ลูกเดือย” ซึ่งใคร ๆ ก็คิดว่านำไปต้มได้เพียงอย่างเดียว
แต่เมื่อ พิจารณาดูแล้ว เห็นว่าน่าจะทำเป็นอย่างอื่นได้ อาทิ อาหารทานเล่นแบบกรุบกรอบ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ โดยลูกเดือยมีสารอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายมากมาย
เช่น ใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินบี 1 ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคล เซียม และยังมีสรรพคุณเป็นยาเย็น ใช้บำบัดอาการหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ น้ำคั่งในปอด แก้ร้อนใน บำรุงไต บำรุงกระเพาะอาหารและม้าม ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ บำรุงสตรีหลังคลอด ช่วยย่อยอาหาร และเจริญอาหาร
ทั้งหมดคือ คุณประโยชน์ของเจ้าเม็ดกลม ๆ อ้วน ๆ ที่เรียกว่า “ลูกเดือย”
ส่วน “ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร” ที่คิดทำขึ้นมา นอกจากลูกเดือยแล้ว ยังมี ใบมะกรูด, พริกไทยดำ เป็นสมุนไพรที่เพิ่มกลิ่นและสีสันให้มีความน่ารับประทานมากขึ้น และมีประโยชน์มากขึ้น
ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร มีวัตถุดิบและวิธีการทำดังนี้คือ...
วัตถุดิบก็มี ลูกเดือย 250 กรัม, ใบมะกรูด 45 กรัม, เมล็ดพริกไทยดำ 20 กรัม, น้ำตาลทรายขาว 30 กรัม, เกลือป่น 5 กรัม และน้ำมันพืช (สำหรับทอด) 0.5 ลิตร
ส่วนวิธี ทำ...เริ่มจากนำลูกเดือยแช่น้ำสะอาดนาน 1 คืน แล้วต้มให้สุก เมื่อสุกแล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ นำไป อบในตู้อบที่อุณหภูมิ 60 องศา เซลเซียส นาน 4-6 ชั่วโมง วิธีนี้จะทำให้ลูกเดือยเมื่อทอดแล้วจะพองฟูและมีความกรอบนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง (หากไม่มีตู้อบให้ใช้วิธีการตากแดดให้ แห้งแทน)
ขั้น ตอนต่อมา ทอดลูกเดือยในน้ำมันที่ร้อนจัด จนพองฟูและมีสีเหลืองทอง นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน โดยแบ่งทอดทีละน้อย เตรียมหั่นใบมะกรูดเป็นฝอยลงทอดให้กรอบดี และทอดเมล็ดพริกไทยดำให้พอสุก พักไว้
วิธีการคลุกเคล้าส่วนผสม นำลูกเดือยทอดกรอบ + ใบมะกรูดทอดกรอบ + เมล็ดพริกไทยทอดกรอบ + น้ำตาลทราย + เกลือ ใส่ลงในถุงพลาสติกชนิดที่ไม่มีหูหิ้ว ขนาดกว้าง 8 นิ้ว แล้วเขย่าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
หากทำในปริมาณมาก ใช้ภาชนะขนาดใหญ่ที่มีฝาปิดแทนถุงได้ จากนั้นนำใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด พร้อมขาย ซึ่งสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน และเหมาะสำหรับเป็นของรับประทานเล่นของผู้ที่รักสุขภาพ
อ.ชมพูนุชบอก ว่า ตามสูตรนี้หากบรรจุใส่ภาชนะ 25 กรัม จะได้จำนวนประมาณ 14 กระปุก ขายในราคากระปุกละ 20 บาท ก็จะได้ 280 บาท ส่วนต้นทุนวัตถุดิบต่าง ๆ ตกอยู่ที่ประมาณ 170 บาท
นอกจากนี้ อ.ชมพูนุช ยังได้แนะนำเคล็ดลับเพิ่มเติมอีก 2 ประเด็นคือ หากชอบให้รสชาติเคลือบติดอยู่กับผิวลูกเดือย สามารถใช้วิธีการฉาบได้ โดยนำน้ำตาลและเกลือตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียวแล้วจึงใส่ลูกเดือยทอดลงไปคลุก เคล้าให้เข้ากัน หรืออาจเปลี่ยนจากน้ำตาลและเกลือเป็นเนยหรือช็อกโกแลตได้
รวม ถึง สามารถเปลี่ยนรสชาติด้วยผงปรุงรสสำเร็จรูปได้หลากหลาย เช่น รสต้มยำ, รสพิซซ่า, บาร์บิคิว โดยรสชาติเหล่านี้การจะใช้ก็ไม่ยุ่งยาก เพราะมีผงปรุงรสสำเร็จรูปขาย ส่วนแต่ละรสจะใช้ปริมาณมากน้อยเท่าไร ก็กะดูว่าต้องการให้ลูกเดือยมีรสชาติจัดจ้านเพียงใด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นรสต้มยำ ในปริมาณวัตถุดิบข้างต้นนั้น ควรจะใช้ผง ปรุงรสต้มยำประมาณ 25 กรัม ซึ่งก็เป็นการใช้แทนเกลือป่น และน้ำตาลทรายขาว
สนใจเรื่อง “ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร” ต้องการติดต่อ อ.ชมพูนุช เผื่อนพิภพ ก็ไปได้ที่คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร หรือ โทร. 0-2281-9231-4 ต่อ 1201-3
บางทีนี่อาจจะเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีสำหรับคุณ.
สุภา รัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล http://www.dailynews.co.th
ขนมกรุบกรอบทานเล่นจากโรงงานใหญ่ ๆ ที่มีวางขายตามท้องตลาดนั้น บ้างก็มีประโยชน์น้อย บ้างก็มีราคาสูง ซึ่งนี่ก็เป็นช่องว่างทางการตลาดสำหรับรายย่อย เป็น “ช่องทางทำกิน” จากการผลิตขนมกรุบกรอบที่มีประโยชน์-ราคาไม่แพง อย่างการทำ “ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร” ขาย ก็น่าสนใจ...
ชมพูนุช เผื่อนพิภพ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร เปิดเผยว่า จากการทำโครงการเกษตรอินทรีย์เป็นผลิตภัณฑ์ เมื่อลงพื้นที่ในต่างจังหวัดก็พบพวกธัญพืชต่าง ๆ เป็นที่นิยมมาก แล้วก็เห็น “ลูกเดือย” ซึ่งใคร ๆ ก็คิดว่านำไปต้มได้เพียงอย่างเดียว
แต่เมื่อ พิจารณาดูแล้ว เห็นว่าน่าจะทำเป็นอย่างอื่นได้ อาทิ อาหารทานเล่นแบบกรุบกรอบ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ โดยลูกเดือยมีสารอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายมากมาย
เช่น ใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินบี 1 ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคล เซียม และยังมีสรรพคุณเป็นยาเย็น ใช้บำบัดอาการหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ น้ำคั่งในปอด แก้ร้อนใน บำรุงไต บำรุงกระเพาะอาหารและม้าม ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ บำรุงสตรีหลังคลอด ช่วยย่อยอาหาร และเจริญอาหาร
ทั้งหมดคือ คุณประโยชน์ของเจ้าเม็ดกลม ๆ อ้วน ๆ ที่เรียกว่า “ลูกเดือย”
ส่วน “ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร” ที่คิดทำขึ้นมา นอกจากลูกเดือยแล้ว ยังมี ใบมะกรูด, พริกไทยดำ เป็นสมุนไพรที่เพิ่มกลิ่นและสีสันให้มีความน่ารับประทานมากขึ้น และมีประโยชน์มากขึ้น
ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร มีวัตถุดิบและวิธีการทำดังนี้คือ...
วัตถุดิบก็มี ลูกเดือย 250 กรัม, ใบมะกรูด 45 กรัม, เมล็ดพริกไทยดำ 20 กรัม, น้ำตาลทรายขาว 30 กรัม, เกลือป่น 5 กรัม และน้ำมันพืช (สำหรับทอด) 0.5 ลิตร
ส่วนวิธี ทำ...เริ่มจากนำลูกเดือยแช่น้ำสะอาดนาน 1 คืน แล้วต้มให้สุก เมื่อสุกแล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ นำไป อบในตู้อบที่อุณหภูมิ 60 องศา เซลเซียส นาน 4-6 ชั่วโมง วิธีนี้จะทำให้ลูกเดือยเมื่อทอดแล้วจะพองฟูและมีความกรอบนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง (หากไม่มีตู้อบให้ใช้วิธีการตากแดดให้ แห้งแทน)
ขั้น ตอนต่อมา ทอดลูกเดือยในน้ำมันที่ร้อนจัด จนพองฟูและมีสีเหลืองทอง นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน โดยแบ่งทอดทีละน้อย เตรียมหั่นใบมะกรูดเป็นฝอยลงทอดให้กรอบดี และทอดเมล็ดพริกไทยดำให้พอสุก พักไว้
วิธีการคลุกเคล้าส่วนผสม นำลูกเดือยทอดกรอบ + ใบมะกรูดทอดกรอบ + เมล็ดพริกไทยทอดกรอบ + น้ำตาลทราย + เกลือ ใส่ลงในถุงพลาสติกชนิดที่ไม่มีหูหิ้ว ขนาดกว้าง 8 นิ้ว แล้วเขย่าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
หากทำในปริมาณมาก ใช้ภาชนะขนาดใหญ่ที่มีฝาปิดแทนถุงได้ จากนั้นนำใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด พร้อมขาย ซึ่งสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน และเหมาะสำหรับเป็นของรับประทานเล่นของผู้ที่รักสุขภาพ
อ.ชมพูนุชบอก ว่า ตามสูตรนี้หากบรรจุใส่ภาชนะ 25 กรัม จะได้จำนวนประมาณ 14 กระปุก ขายในราคากระปุกละ 20 บาท ก็จะได้ 280 บาท ส่วนต้นทุนวัตถุดิบต่าง ๆ ตกอยู่ที่ประมาณ 170 บาท
นอกจากนี้ อ.ชมพูนุช ยังได้แนะนำเคล็ดลับเพิ่มเติมอีก 2 ประเด็นคือ หากชอบให้รสชาติเคลือบติดอยู่กับผิวลูกเดือย สามารถใช้วิธีการฉาบได้ โดยนำน้ำตาลและเกลือตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียวแล้วจึงใส่ลูกเดือยทอดลงไปคลุก เคล้าให้เข้ากัน หรืออาจเปลี่ยนจากน้ำตาลและเกลือเป็นเนยหรือช็อกโกแลตได้
รวม ถึง สามารถเปลี่ยนรสชาติด้วยผงปรุงรสสำเร็จรูปได้หลากหลาย เช่น รสต้มยำ, รสพิซซ่า, บาร์บิคิว โดยรสชาติเหล่านี้การจะใช้ก็ไม่ยุ่งยาก เพราะมีผงปรุงรสสำเร็จรูปขาย ส่วนแต่ละรสจะใช้ปริมาณมากน้อยเท่าไร ก็กะดูว่าต้องการให้ลูกเดือยมีรสชาติจัดจ้านเพียงใด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นรสต้มยำ ในปริมาณวัตถุดิบข้างต้นนั้น ควรจะใช้ผง ปรุงรสต้มยำประมาณ 25 กรัม ซึ่งก็เป็นการใช้แทนเกลือป่น และน้ำตาลทรายขาว
สนใจเรื่อง “ลูกเดือยทอดกรอบสมุนไพร” ต้องการติดต่อ อ.ชมพูนุช เผื่อนพิภพ ก็ไปได้ที่คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร หรือ โทร. 0-2281-9231-4 ต่อ 1201-3
บางทีนี่อาจจะเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีสำหรับคุณ.
สุภา รัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล http://www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น