แฮนด์เมดทำ เงินได้ทุกยุค
อาชีพทำ “กระเป๋าหนัง” ที่เป็นงาน “แฮนด์เมด” ไม่จำเป็นต้องมีโรงงานใหญ่โต ลงทุนไม่มากก็ทำอาชีพนี้ได้ ขอเพียงมีความรู้ความชำนาญในการทำ ยิ่งถ้าออกแบบดีไซน์ตามกระแสแฟชั่นได้อยู่ตลอด สินค้าประเภทนี้ก็จะเป็น “ช่องทางทำกิน” ให้กับผู้ที่ทำได้เป็นอย่างดี อาชีพนี้จึงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ
อิทธิเดช ตันบูล มีประสบการณ์เย็บกระเป๋าหนังมากว่า 10 ปี ปัจจุบันจำหน่ายด้วยแบรนด์ NC โดยเขาเริ่มจากการที่ไม่มีความรู้เรื่องการทำเครื่องหนังเลย แต่ก็เรียนรู้จนสามารถทำกิจการของตัวเองได้ ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า เป็นคนต่างจังหวัด หลังเรียนจบ ม.6 ก็เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ โดยเป็นลูกจ้างในร้านเครื่องหนัง และเริ่มเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำเครื่องหนังมาเรื่อย จนสามารถทำเป็นทุกขั้นตอน ทำได้ทุกอย่าง
เป็นลูกจ้างอยู่ประมาณ 10 กว่าปี อิทธิเดชก็เริ่มมีความคิดที่จะมีร้านเป็นของตัวเอง จึงตัดสินใจออกมาสร้างธุรกิจเย็บกระเป๋าหนัง เริ่มจากเปิดร้าน เล็ก ๆ ซึ่งด้วยความที่งานของเขามีดีไซน์สวยงาม เป็นงานที่เน้นความประณีตทุกชิ้น ทำให้มีลูกค้าให้ความสนใจในสินค้าของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“งานเย็บกระเป๋าหนังที่ทำอยู่นั้น เป็นงานที่ต้องเน้นงานดีไซน์ตามแฟชั่น เน้นความประณีตในการทำ และสร้างจุดเด่นของสินค้าไม่ให้ซ้ำใคร และจะมีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่ทุก 3 เดือน ที่สำคัญเราเลือกใช้หนังวัวเกรดเอ เพื่อความสวยงามและทนทานแข็งแรงในการใช้งาน สินค้าของเราจึงได้รับความนิยม”
รูป แบบดีไซน์ ที่จะต้องอัพเดทตามแฟชั่นเรื่อย ๆ นั้น อิทธิเดชมักจะดูแบบกระเป๋าแฟชั่นจากนิตยสารและอินเทอร์เน็ต เพื่อตามแนวแฟชั่นให้ทันตลอด ดูแล้วก็นำมาประยุกต์ทำให้เป็นสไตล์ของตัวเอง
วัตถุ ดิบอย่างหนังวัว อิทธิเดชแนะนำว่า ควรเลือกใช้หนังวัวแท้ เป็นหนังประเภทหนังออยล์และชามัวส์ เพราะถือว่าเป็นหนังที่มีคุณภาพดี และการเลือกนั้นจะต้องเลือกใช้หนังที่หนาแบบบาง และแบบหนาปานกลาง ไม่ควรใช้แผ่นหนังที่หนามากไปเพราะเวลาทำเป็นกระเป๋าออกมาจะทำให้กระเป๋า นั้นหนักเกินไป ส่วนในเรื่องของแหล่งที่ซื้อหนังนั้นเขาจะไปซื้อที่โรงงานฟอกหนัง ที่ จ.สมุทรปราการ
สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องมีในการทำกระเป๋าหนังนั้น หลัก ๆ มีดังนี้คือ... ค้อน, เข็มเย็บหนัง, ด้ายเทียน, เครื่องเจาะนำร่องก่อนเย็บขนาดต่าง ๆ, กรรไกร เป็นต้น
ขั้นตอนการทำ กระเป๋าหนัง เริ่มจากการออกแบบรูปทรงกระเป๋าตามที่ต้องการ จากนั้นก็วาดเป็นแพทเทิร์นลงกระดาษ แล้วก็ตัดแพทเทิร์นเป็นชิ้น ๆ ออกมา ขั้นต่อไปก็นำแพทเทิร์นไปวางทาบบนแผ่นหนัง ใช้กาวทา แล้วทำการตัดหนังออกมาเป็นชิ้น ๆ ตามแพทเทิร์น
แพทเทิร์น 1 ชิ้นจะทาบแผ่นหนังแล้วตัดออกมา 2 ชิ้น คือแผ่นหนังที่หนาปานกลาง กับแผ่นหนังแบบบาง นำทั้งสองแผ่นมาทำการประกบติดกัน ทายึดด้วยกาวยาง จากนั้นก็ใช้ด้ายเย็บให้เรียบร้อย ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้หนัง 2 แผ่นเย็บติดกันก็เพื่อความสวยงามของชิ้นงาน
เมื่อได้แพทเทิร์นทุก ชิ้นแล้ว ก็นำมาประกอบเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ทำการเย็บ โดยเริ่มเย็บจากด้านข้างกระเป๋าก่อน เมื่อทำการเย็บจนเสร็จเรียบร้อยเป็นรูปร่างกระเป๋าแล้ว จากนั้นก็นำหูกระเป๋ามาเย็บติดเข้าไป แล้วก็ทำการตกแต่งเก็บรายละเอียดในส่วนของภายนอกตามแบบที่ต้องการ และขั้นตอนสุดท้ายก็เป็นการใช้สีที่ใช้ทาขอบหนังโดยเฉพาะ ทาขอบกระเป๋าให้เรียบร้อย
อิทธิเดชบอกว่า การเย็บนั้นจะต้องใช้ตัวเจาะนำร่องตอกก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการเย็บ ที่สำคัญระยะห่างระหว่างรูเย็บนั้นจะต้องเท่ากัน ทำให้งานประณีตสวยงาม ส่วนรูปแบบการเย็บจะใช้เทคนิคการเย็บแบบด้น
ราคากระเป๋าหนังของอิทธิ เดชมีตั้งแต่ 1,000-4,500 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบและความยากง่ายในการทำ โดยต้นทุนจะประมาณ 60-70% ของราคาที่ตั้งขาย ซึ่งปัจจุบันเขามีแบบกระเป๋าให้เลือกกว่าร้อยแบบ นอกจากนั้น ยังมีสินค้าเครื่องหนังอื่น ๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ เข็มขัด พวงกุญแจ ซองใส่โทรศัพท์มือถือ
สนใจกระเป๋าหนังดีไซน์ของอิทธิเดช สามารถแวะไปดูได้ที่เลขที่ 66 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ และที่ตลาดนัดจตุจักร โครงการ 7 ซอย 4 เบอร์โทรศัพท์คือ 08-9885-3381, 08-9207-1207 ซึ่งสำหรับคนมีไอเดียดี ๆ บางทีการฝึกทำ “กระเป๋าหนัง” อาจจะเป็นอาชีพที่ใช่เลยก็ได้.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน/จเร รัตนราตรี
อาชีพทำ “กระเป๋าหนัง” ที่เป็นงาน “แฮนด์เมด” ไม่จำเป็นต้องมีโรงงานใหญ่โต ลงทุนไม่มากก็ทำอาชีพนี้ได้ ขอเพียงมีความรู้ความชำนาญในการทำ ยิ่งถ้าออกแบบดีไซน์ตามกระแสแฟชั่นได้อยู่ตลอด สินค้าประเภทนี้ก็จะเป็น “ช่องทางทำกิน” ให้กับผู้ที่ทำได้เป็นอย่างดี อาชีพนี้จึงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ
อิทธิเดช ตันบูล มีประสบการณ์เย็บกระเป๋าหนังมากว่า 10 ปี ปัจจุบันจำหน่ายด้วยแบรนด์ NC โดยเขาเริ่มจากการที่ไม่มีความรู้เรื่องการทำเครื่องหนังเลย แต่ก็เรียนรู้จนสามารถทำกิจการของตัวเองได้ ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า เป็นคนต่างจังหวัด หลังเรียนจบ ม.6 ก็เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ โดยเป็นลูกจ้างในร้านเครื่องหนัง และเริ่มเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำเครื่องหนังมาเรื่อย จนสามารถทำเป็นทุกขั้นตอน ทำได้ทุกอย่าง
เป็นลูกจ้างอยู่ประมาณ 10 กว่าปี อิทธิเดชก็เริ่มมีความคิดที่จะมีร้านเป็นของตัวเอง จึงตัดสินใจออกมาสร้างธุรกิจเย็บกระเป๋าหนัง เริ่มจากเปิดร้าน เล็ก ๆ ซึ่งด้วยความที่งานของเขามีดีไซน์สวยงาม เป็นงานที่เน้นความประณีตทุกชิ้น ทำให้มีลูกค้าให้ความสนใจในสินค้าของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“งานเย็บกระเป๋าหนังที่ทำอยู่นั้น เป็นงานที่ต้องเน้นงานดีไซน์ตามแฟชั่น เน้นความประณีตในการทำ และสร้างจุดเด่นของสินค้าไม่ให้ซ้ำใคร และจะมีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่ทุก 3 เดือน ที่สำคัญเราเลือกใช้หนังวัวเกรดเอ เพื่อความสวยงามและทนทานแข็งแรงในการใช้งาน สินค้าของเราจึงได้รับความนิยม”
รูป แบบดีไซน์ ที่จะต้องอัพเดทตามแฟชั่นเรื่อย ๆ นั้น อิทธิเดชมักจะดูแบบกระเป๋าแฟชั่นจากนิตยสารและอินเทอร์เน็ต เพื่อตามแนวแฟชั่นให้ทันตลอด ดูแล้วก็นำมาประยุกต์ทำให้เป็นสไตล์ของตัวเอง
วัตถุ ดิบอย่างหนังวัว อิทธิเดชแนะนำว่า ควรเลือกใช้หนังวัวแท้ เป็นหนังประเภทหนังออยล์และชามัวส์ เพราะถือว่าเป็นหนังที่มีคุณภาพดี และการเลือกนั้นจะต้องเลือกใช้หนังที่หนาแบบบาง และแบบหนาปานกลาง ไม่ควรใช้แผ่นหนังที่หนามากไปเพราะเวลาทำเป็นกระเป๋าออกมาจะทำให้กระเป๋า นั้นหนักเกินไป ส่วนในเรื่องของแหล่งที่ซื้อหนังนั้นเขาจะไปซื้อที่โรงงานฟอกหนัง ที่ จ.สมุทรปราการ
สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องมีในการทำกระเป๋าหนังนั้น หลัก ๆ มีดังนี้คือ... ค้อน, เข็มเย็บหนัง, ด้ายเทียน, เครื่องเจาะนำร่องก่อนเย็บขนาดต่าง ๆ, กรรไกร เป็นต้น
ขั้นตอนการทำ กระเป๋าหนัง เริ่มจากการออกแบบรูปทรงกระเป๋าตามที่ต้องการ จากนั้นก็วาดเป็นแพทเทิร์นลงกระดาษ แล้วก็ตัดแพทเทิร์นเป็นชิ้น ๆ ออกมา ขั้นต่อไปก็นำแพทเทิร์นไปวางทาบบนแผ่นหนัง ใช้กาวทา แล้วทำการตัดหนังออกมาเป็นชิ้น ๆ ตามแพทเทิร์น
แพทเทิร์น 1 ชิ้นจะทาบแผ่นหนังแล้วตัดออกมา 2 ชิ้น คือแผ่นหนังที่หนาปานกลาง กับแผ่นหนังแบบบาง นำทั้งสองแผ่นมาทำการประกบติดกัน ทายึดด้วยกาวยาง จากนั้นก็ใช้ด้ายเย็บให้เรียบร้อย ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้หนัง 2 แผ่นเย็บติดกันก็เพื่อความสวยงามของชิ้นงาน
เมื่อได้แพทเทิร์นทุก ชิ้นแล้ว ก็นำมาประกอบเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ทำการเย็บ โดยเริ่มเย็บจากด้านข้างกระเป๋าก่อน เมื่อทำการเย็บจนเสร็จเรียบร้อยเป็นรูปร่างกระเป๋าแล้ว จากนั้นก็นำหูกระเป๋ามาเย็บติดเข้าไป แล้วก็ทำการตกแต่งเก็บรายละเอียดในส่วนของภายนอกตามแบบที่ต้องการ และขั้นตอนสุดท้ายก็เป็นการใช้สีที่ใช้ทาขอบหนังโดยเฉพาะ ทาขอบกระเป๋าให้เรียบร้อย
อิทธิเดชบอกว่า การเย็บนั้นจะต้องใช้ตัวเจาะนำร่องตอกก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการเย็บ ที่สำคัญระยะห่างระหว่างรูเย็บนั้นจะต้องเท่ากัน ทำให้งานประณีตสวยงาม ส่วนรูปแบบการเย็บจะใช้เทคนิคการเย็บแบบด้น
ราคากระเป๋าหนังของอิทธิ เดชมีตั้งแต่ 1,000-4,500 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบและความยากง่ายในการทำ โดยต้นทุนจะประมาณ 60-70% ของราคาที่ตั้งขาย ซึ่งปัจจุบันเขามีแบบกระเป๋าให้เลือกกว่าร้อยแบบ นอกจากนั้น ยังมีสินค้าเครื่องหนังอื่น ๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ เข็มขัด พวงกุญแจ ซองใส่โทรศัพท์มือถือ
สนใจกระเป๋าหนังดีไซน์ของอิทธิเดช สามารถแวะไปดูได้ที่เลขที่ 66 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ และที่ตลาดนัดจตุจักร โครงการ 7 ซอย 4 เบอร์โทรศัพท์คือ 08-9885-3381, 08-9207-1207 ซึ่งสำหรับคนมีไอเดียดี ๆ บางทีการฝึกทำ “กระเป๋าหนัง” อาจจะเป็นอาชีพที่ใช่เลยก็ได้.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน/จเร รัตนราตรี
เครดิตจาก เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น