หน้า “ช่องทางทำกิน” เสาร์นี้มีพื้นที่มากพอสมควร ผมก็เลยจะนำข้อมูลการ “แปรรูปผลไม้” สัก 2-3 อย่างมาบอกกล่าวกันใน “ถอดรหัสอาชีพ” เผื่อใครมีแหล่งผลไม้ที่ราคาถูก อาจจะซื้อหามาแปรรูปขายเพิ่มมูลค่า-สร้างรายได้กัน ก็จะเป็นในส่วนของผลไม้ที่ตอนนี้หาได้ไม่ยาก และราคาก็ถูก หรือไม่สูงมาก
เริ่ม จาก “ลำไย” เอาเป็น “วุ้นลำไย” ก็แล้วกัน...โดยส่วนผสมตามสูตรก็คือ...ลำไยสด 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาลทราย 3 กิโลกรัม และผงวุ้น 1 ถุง (ขนาด 25 กรัม) วิธีทำเริ่มจาก...นำน้ำเปล่าประมาณ 3 กิโลกรัมใส่หม้อตั้งไฟ ต้มให้เดือด แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย จากนั้นนำผงวุ้นไปละลายกับน้ำเย็นเพื่อให้แตกตัว ก่อนที่ จะนำมาเทใส่ใน หม้อน้ำที่ตั้งไฟไว้ “เคล็ดลับก็คือ อย่าเทผงวุ้นลงไปในน้ำร้อน ๆ เพราะจะทำให้ผงวุ้นแข็งตัวเกินไป” เมื่อเทผงวุ้นที่ละลายในน้ำเย็นลงไปในหม้อน้ำที่ตั้งไฟแล้ว ก็คนให้เข้ากัน
ตั้ง ไฟต่ออีกสักพักจนกระทั่งเดือด ระหว่างนี้เตรียมถ้วยพลาสติกขนาด 6 ออนซ์ ใส่ลำไยสดที่ปอกเปลือกแกะเมล็ดแล้ว 4-5 ลูก แล้วตักน้ำวุ้นที่เดือดใส่ตามลงไป พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที น้ำวุ้นจะแข็งตัวกลายเป็นเนื้อวุ้น ซึ่งสามารถทานได้ทันที แต่ควรแช่เย็นก่อนทาน-ก่อนขาย จะได้รสชาติหวานเย็นชื่นใจ
“วุ้นลำไย” นี้หากแช่เย็นจะเก็บไว้ได้ 2-3 วัน จากสูตรนี้จะทำได้ประมาณ 30-35 ถ้วย ขายราคาถ้วยละ 10 บาทขึ้นไปได้สบาย ๆ ส่วนกำไรก็แล้วแต่ราคาลำไยสด ราคายิ่งต่ำกำไรก็ยิ่งสูง
อีกชนิด เอาเป็น “มังคุด” และแปรรูปทำเป็น “น้ำมังคุด” ซึ่งมังคุดนั้นเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซี ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ได้ ในช่วงที่มีผลผลิตมังคุดมาก และราคาถูก การแปรรูปโดยการทำเป็นน้ำมังคุดขายก็เป็นอีกวิธีเพิ่มมูลค่า และสำหรับส่วนผสมในการทำน้ำมังคุดตามสูตรที่ผมมีอยู่ ก็คือ...เนื้อมังคุดแกะเมล็ดในออก 1 กิโลกรัม ต่อน้ำต้มสุกประมาณ 8 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง และเกลือป่น 2 ช้อนชา
วิธีทำเริ่มจาก...นำ เนื้อมังคุดที่เอาเมล็ดออกแล้ว 1 กิโลกรัมใส่หม้อ ใส่น้ำลงไปตามส่วนคือ 8 ถ้วยตวง จากนั้นก็ติดไฟต้มและเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ จนเนื้อมังคุดเปื่อยยุ่ย จึงนำลงจากเตาไฟ จากนั้นกรองเอากากที่ไม่ต้องการทิ้ง บีบเอาน้ำออกจากกากให้หมด ยกน้ำมังคุดที่กรองได้ขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง โดยเติมน้ำสะอาดเพิ่มลงไปให้ได้ปริมาณเท่าที่ต้มตอนแรก ต้มจนเดือดอีกครั้ง พอเดือดก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป 5 ถ้วยตวง
ลำดับสุดท้ายเติมเกลือป่นลงไป เมื่อเดือดดีก็นำขึ้นจากเตามากรองอีกรอบ จากนั้นปล่อยให้เย็น แล้วรินใส่ภาชนะ ก็จะได้ “น้ำมังคุด” พร้อมขาย ราคาขายก็ตั้งตามความเหมาะสมกับต้นทุน
พื้นที่มีอีกเล็กน้อย หา “เงาะ” มาทำ “เงาะลอยแก้ว” ด้วยแล้วกัน ขั้นตอนการทำเงาะลอยแก้วนั้นไม่ยุ่งยาก จะคล้ายวิธีทำสละลอยแก้ว เพียงแต่เปลี่ยนวัตถุดิบเป็นเงาะเท่านั้น และไม่ต้องต้มให้สุกเหมือนสละ
วิธี ทำเริ่มจาก...นำเงาะมาปอกเปลือก แกะเมล็ดออกแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำไปล้างให้สะอาด แต่ไม่ควรแช่น้ำทิ้งไว้นานเพราะจะทำให้เนื้อเงาะเละเกินไป จากนั้นเตรียมทำน้ำเชื่อม โดยสัดส่วนก็ใช้น้ำตาลทรายประมาณ 1 กิโลกรัม ผสมกับน้ำเปล่าประมาณ 300 กรัม นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวให้เข้ากัน ให้น้ำตาลทรายละลายเป็นน้ำเชื่อม ทิ้งไว้ให้เย็นและนำเข้าเก็บในตู้เย็น เมื่อจะขายก็ตักน้ำเชื่อมใส่ถ้วย ใส่ชิ้นเงาะลงไป แล้วเติมน้ำแข็ง
ราคา ขาย “เงาะลอยแก้ว” ก็ตั้งได้ตั้งแต่ 15-20 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณ-แหล่งที่ขาย โดยใส่เนื้อเงาะ 4-5 ชิ้น หรือตามขนาดภาชนะ ซึ่งเงาะ 1 กิโลกรัมจะทำขายได้ประมาณ 4-5 ถ้วยขึ้นไป
ก็เป็นข้อมูล “แปรรูปผลไม้” ที่นำมาฝากให้ลองพิจารณากันอีกครั้งครับ
เริ่ม จาก “ลำไย” เอาเป็น “วุ้นลำไย” ก็แล้วกัน...โดยส่วนผสมตามสูตรก็คือ...ลำไยสด 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาลทราย 3 กิโลกรัม และผงวุ้น 1 ถุง (ขนาด 25 กรัม) วิธีทำเริ่มจาก...นำน้ำเปล่าประมาณ 3 กิโลกรัมใส่หม้อตั้งไฟ ต้มให้เดือด แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย จากนั้นนำผงวุ้นไปละลายกับน้ำเย็นเพื่อให้แตกตัว ก่อนที่ จะนำมาเทใส่ใน หม้อน้ำที่ตั้งไฟไว้ “เคล็ดลับก็คือ อย่าเทผงวุ้นลงไปในน้ำร้อน ๆ เพราะจะทำให้ผงวุ้นแข็งตัวเกินไป” เมื่อเทผงวุ้นที่ละลายในน้ำเย็นลงไปในหม้อน้ำที่ตั้งไฟแล้ว ก็คนให้เข้ากัน
ตั้ง ไฟต่ออีกสักพักจนกระทั่งเดือด ระหว่างนี้เตรียมถ้วยพลาสติกขนาด 6 ออนซ์ ใส่ลำไยสดที่ปอกเปลือกแกะเมล็ดแล้ว 4-5 ลูก แล้วตักน้ำวุ้นที่เดือดใส่ตามลงไป พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที น้ำวุ้นจะแข็งตัวกลายเป็นเนื้อวุ้น ซึ่งสามารถทานได้ทันที แต่ควรแช่เย็นก่อนทาน-ก่อนขาย จะได้รสชาติหวานเย็นชื่นใจ
“วุ้นลำไย” นี้หากแช่เย็นจะเก็บไว้ได้ 2-3 วัน จากสูตรนี้จะทำได้ประมาณ 30-35 ถ้วย ขายราคาถ้วยละ 10 บาทขึ้นไปได้สบาย ๆ ส่วนกำไรก็แล้วแต่ราคาลำไยสด ราคายิ่งต่ำกำไรก็ยิ่งสูง
อีกชนิด เอาเป็น “มังคุด” และแปรรูปทำเป็น “น้ำมังคุด” ซึ่งมังคุดนั้นเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซี ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ได้ ในช่วงที่มีผลผลิตมังคุดมาก และราคาถูก การแปรรูปโดยการทำเป็นน้ำมังคุดขายก็เป็นอีกวิธีเพิ่มมูลค่า และสำหรับส่วนผสมในการทำน้ำมังคุดตามสูตรที่ผมมีอยู่ ก็คือ...เนื้อมังคุดแกะเมล็ดในออก 1 กิโลกรัม ต่อน้ำต้มสุกประมาณ 8 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง และเกลือป่น 2 ช้อนชา
วิธีทำเริ่มจาก...นำ เนื้อมังคุดที่เอาเมล็ดออกแล้ว 1 กิโลกรัมใส่หม้อ ใส่น้ำลงไปตามส่วนคือ 8 ถ้วยตวง จากนั้นก็ติดไฟต้มและเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ จนเนื้อมังคุดเปื่อยยุ่ย จึงนำลงจากเตาไฟ จากนั้นกรองเอากากที่ไม่ต้องการทิ้ง บีบเอาน้ำออกจากกากให้หมด ยกน้ำมังคุดที่กรองได้ขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง โดยเติมน้ำสะอาดเพิ่มลงไปให้ได้ปริมาณเท่าที่ต้มตอนแรก ต้มจนเดือดอีกครั้ง พอเดือดก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป 5 ถ้วยตวง
ลำดับสุดท้ายเติมเกลือป่นลงไป เมื่อเดือดดีก็นำขึ้นจากเตามากรองอีกรอบ จากนั้นปล่อยให้เย็น แล้วรินใส่ภาชนะ ก็จะได้ “น้ำมังคุด” พร้อมขาย ราคาขายก็ตั้งตามความเหมาะสมกับต้นทุน
พื้นที่มีอีกเล็กน้อย หา “เงาะ” มาทำ “เงาะลอยแก้ว” ด้วยแล้วกัน ขั้นตอนการทำเงาะลอยแก้วนั้นไม่ยุ่งยาก จะคล้ายวิธีทำสละลอยแก้ว เพียงแต่เปลี่ยนวัตถุดิบเป็นเงาะเท่านั้น และไม่ต้องต้มให้สุกเหมือนสละ
วิธี ทำเริ่มจาก...นำเงาะมาปอกเปลือก แกะเมล็ดออกแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำไปล้างให้สะอาด แต่ไม่ควรแช่น้ำทิ้งไว้นานเพราะจะทำให้เนื้อเงาะเละเกินไป จากนั้นเตรียมทำน้ำเชื่อม โดยสัดส่วนก็ใช้น้ำตาลทรายประมาณ 1 กิโลกรัม ผสมกับน้ำเปล่าประมาณ 300 กรัม นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวให้เข้ากัน ให้น้ำตาลทรายละลายเป็นน้ำเชื่อม ทิ้งไว้ให้เย็นและนำเข้าเก็บในตู้เย็น เมื่อจะขายก็ตักน้ำเชื่อมใส่ถ้วย ใส่ชิ้นเงาะลงไป แล้วเติมน้ำแข็ง
ราคา ขาย “เงาะลอยแก้ว” ก็ตั้งได้ตั้งแต่ 15-20 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณ-แหล่งที่ขาย โดยใส่เนื้อเงาะ 4-5 ชิ้น หรือตามขนาดภาชนะ ซึ่งเงาะ 1 กิโลกรัมจะทำขายได้ประมาณ 4-5 ถ้วยขึ้นไป
ก็เป็นข้อมูล “แปรรูปผลไม้” ที่นำมาฝากให้ลองพิจารณากันอีกครั้งครับ
ที่มา เด ลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น